centromedica.net
33 พันล้านบาทแล้ว มันไม่ใช่แค่แนวคิดเพ้อฝันอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นสิ่งที่มีผู้คนใช้งานมันจริง ๆ และก็สามารถแก้ปัญหาของผู้คนได้จริง ๆ แล้ว ซึ่งนี่ยังเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะในอีกหลายปีต่อ ๆ ไปนี้มันจะพัฒนาต่อยอดกันไปเรื่อย ๆ เหมือนดั่งตัวต่อเลโก้ในวงการการเงิน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า DeFi นั้นเป็นส่วนที่ทำให้ Ethereum เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมากขึ้นในตอนนี้จนส่งผลให้ราคาของมันทะยานอย่างว่องไว ไม่แน่ว่าการที่ DeFi ได้รับความนิยมขนาดนี้อาจจะเหมือนตอนที่ ICO กำลังดัง และช่วยจุดกระแสให้ทั้ง Bitcoin และตลาดคริปโตทะยานต่ออีกครั้งก็เป็นได้
Rug Pulls Rug Pulls เป็นวิธีการหลอกหลักๆ เลยสำหรับ DeFi ไม่ว่าจะเป็น ปิด DeFi หนีแล้วเชิดเงินไป หลอกให้เข้ามาซื้อเหรียญของ Platform แล้วนำเหรียญที่ตนเองมีในมือมาเทใส่นักลงทุนจนราคาเหรียญตกต่ำ 2. ความเสี่ยงในเรื่องของกฏระเบียบ ก็ต้องยอมรับหละครับว่า DeFi และ Yield Farming ยังเป็นอะไรที่ใหม่มากในโลกนี้และโลกของการเงิน ดังนั้นกฏระเบียบอะไรก็ยังไม่มี ไม่แน่ชัด อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ 3. ความเสี่ยงเรื่องความผันผวน นี่ก็เป็นอีกเรื่องนึงเลยที่คนจะทำ Yield Farming ควรทำความเข้าใจ โดยเฉพาะการเพิ่มสภาพคล่องด้วย LP Token เนื่องจากมีโอกาสขาดทุนได้ตลอดเวลา อย่างน้อยควรจะศึกษาเรื่อง Impermanent Loss ให้เข้าใจก่อน 4. การโดน Hack ผ่าน Smart Contact ขึ้นชื่อว่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ก็ต้องมี Hacker เป็นของคู่กัน ดังนั้นเราจะเห็นข่าวบ่อยๆ ว่า Platform นั้นถูกโจมตี Platform นี้ถูก Flash Loan Attack นี่จึงเป็นเหตุผลให้ว่าทำไมเราจึงต้องเลือก Platform DeFi ท่น่าเชื่อถือในระดับนึง เพื่อลดความเสี่ยงจากการโดนโจมตีนั้นเอง สรุป การทำ yield farming นั้นสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงก็จริง แต่ก็ยังความเสี่ยงที่มากด้วย ดังนั้นควรทำความเข้าใจให้ดีก่อนที่จะเข้ามาลงทุนครับ
Introducing Newly Listed Coin: UNI the Number 1 DeFi วันนี้ Bitkub มีเหรียญใหม่มาแนะนำ นั่นคือเหรียญ UNI หรือ Uniswap นั่นเอง! สำหรับบทความนี้เราจะมาดูกันว่า Uniswap คืออะไร มีอะไรน่าสนใจ และเหรียญนี้สามารถใช้ทำอะไรบ้าง Uniswap คืออะไร? Uniswap คือแพลตฟอร์มสำหรับแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลที่ใช้มาตรฐาน ERC20 เช่น Ethereum (ETH), Basic Attention Token (BAT), หรือ OmiseGO (OMG) โดย Uniswap ถูกสร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum และใช้ Smart Contract การแลกเปลี่ยนเหรียญจึงเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่านตัวกลาง โดยมีค่าธรรมเนียมเป็นเหรียญ ETH ประมาณ 0. 3% ของมูลค่าการแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถจ่ายเหรียญให้กับแพลตฟอร์ม Uniswap เพื่อช่วยเรื่องสภาพคล่องให้กับแพลตฟอร์ม ซึ่งผู้ใช้ก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเป็นค่าธรรมเนียมจากการแลกเปลี่ยนเหรียญนั่นเอง Uniswap ถูกสร้างขึ้นในปี 2018 โดยนาย Hayden Adams ที่ได้รับแรงบันดาลใจเกี่ยวกับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนเหรียญมาจากนาย Vitalik Buterin ผู้ก่อตั้ง Ethereum อีกทีหนึ่ง อัพเดตเป็น Uniswap V2 Uniswap ได้รับการอัพเดตเป็น V2 เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2020 โดยเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่เข้ามา ได้แก่ 1.
แลกเหรียญ ERC20 กับ ERC20 โดยไม่ต้องใช้ ETH เป็นค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยน ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้เหรียญ ERC20 ที่จะแลกเป็นค่าธรรมเนียมได้เลย ฟังก์ชันนี้สามารถลดระยะเวลาในการแลกเปลี่ยนและลดค่าธรรมเนียมลงไปได้อย่างมาก Oracle เป็นการนำ Data Oracle มาป้อนข้อมูลด้านราคาให้กับแพลตฟอร์ม ทำให้ข้อมูลที่แสดงบนแพลตฟอร์มมีความถูกต้องและรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม swappin บริการให้ผู้ใช้ "ยืม" เหรียญที่ต้องใช้กับบริการใดบริการหนึ่ง โดยที่ผู้ใช้จะจ่ายเป็นเหรียญที่ตนเองในมูลค่าที่เท่ากัน 4. แลกเหรียญที่ไม่ใช่ ERC20 บางตัวได้ เหรียญ UNI ทำอะไรได้?
ถ้าหากพูดถึงการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงในยุคนี้เชื่อว่าหลายคน คงต้องตอบว่าลงทุนใน Decentralize Finance (DeFi) น่าจะเป็นคำตอบที่เด้งขึ้นมาเป็นคำตอบแรก แต่บางคนก็อาจจะยังไม่รู้ว่า "ความเสี่ยงของ DeFi" มีอะไรบ้าง สำหรับใครที่สนใจว่า DeFi คืออะไร มีประโยชน์อะไร สามารถเข้าอ่านเพิ่มเติมได้ที่ "DeFi" คืออะไร?
🎉 As a cross chain DeFi hub, Umee is a base layer protocol developed on @Cosmos for DeFi apps to build on. Be part of an interoperable future and cross the DeFi wave with us today🌊🏄 — Umee 🌊 (@Umee_CrossChain) November 19, 2021 จุดเด่นที่น่าสนใจของ Umee การให้ยืมและการกู้ยืมแบบไม่ต้องมีหลักประกัน ผู้ใช้งานสามารถเข้าร่วมได้โดยไม่ต้องมีตัวกลาง, ธนาคารหรืองค์กรใดๆ แถมยังไม่มีการตรวจสอบเครดิตอีกด้วย!
ทำความรู้จักกับโลกการเงิน ที่ไม่ต้องพึ่งธนาคาร อ่านเพิ่มเติม ปรับ Mindset ก่อนลงทุนใน DeFi คำเตือน ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
หากคุณกำลังเป็นอีกคนที่อยากหากำไรจากสกุลเงินดิจิทัล แต่มีเหรียญและงบจำกัด จะลงทุนซื้อเครื่องมาทำเหมืองขุดเหรียญเพิ่มก็ไม่ไหว แต่เอาเหรียญมาเทรดก็คงได้กำไรไม่พอกับเวลาที่รอคอย อีกหนึ่งวิธีลงทุนดีๆ ที่จะช่วยให้คุณมีเหรียญดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นต้องลงทุนเยอะก็คือ การทำ Staking วันนี้เราจึงอยากชวนคุณมาทำความรู้จักกับ Staking กัน Staking คืออะไร? Staking คือ การที่เราเอาเหรียญดิจิทัลที่มีมาวางค้ำประกันไว้อยู่นิ่งๆ ตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่แพลตฟอร์มกำหนด (ในแต่ละแพลตฟอร์มอาจมีการชักชวนให้นำเงินดิจิทัลไป staking ด้วยเหตุผลอะไรซักอย่างที่แตกต่างกันไป) เพราะโดยปกติแล้ว หากเกิดการทำธุรกรรมใดก็ตาม ระบบจะต้องใช้ทรัพยากรและระยะเวลาเป็นจำนวนมาก จากนั้นจะได้รับรางวัลตอบแทน ที่ผู้ใช้งานดิจิทัลเห็นบ่อยสุดก็จะเป็นเรื่องของ proof of stake นั่นเอง สิ่งที่คุณควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ Staking 1. ตัวเองเป็นสายลงทุนในระยะยาวหรือลงทุนระยะสั้น สิ่งแรกที่คุณควรคิดคือ ชอบถือแบบยาวๆ รอราคาให้เงินดิจิทัลที่มีขึ้นไปสูงๆ แล้วค่อยขาย หรือเน้นเทรดมาไวไปไว ถ้าเป็นสายเทรดแบบมาไวไปไวก็อาจจะไม่เหมาะกับการ Staking เพราะคุณอาจจะเจอเงื่อนไขว่า เอาเงินออกมาไม่ได้ในระหว่าง Staking 2.
DeFi เป็นคำย่อมาจาก Decentralized Finance คำ ๆ นี้มักถูกใช้เพื่อพูดถึงสินทรัพย์ดิจิทัล, Smart Contracts ด้านการเงิน, Protocol ต่าง ๆ และ Decentralized Applications (DApps) ที่ถูกสร้างบน Ethereum ถ้าให้เข้าใจง่าย ๆ มันคือซอฟต์แวร์ด้านการเงินที่ถูกสร้างบน Blockchain ซึ่งสามารถนำซอฟต์แวร์เหล่านั้นมาต่อรวมกันได้แบบเลโก้ คุณสามรถเข้าไปดูพื่อคำรู้จักและศึกษาผลิตภัณฑ์และบริการในระบบนิเวศน์ของ Ethereum DeFi ได้ที่ DeFiPulse ในนนั้นจะคอยบอกว่ามี DeFi ที่ได้รับความนิยมต่าง ๆ นั้นมีมูลค่าเท่าไรบ้างที่ถูกล็อคอยู่ อะไรคือ Decentralized Finance และมันมีไว้สำหรับใคร?